สวัสดีครับ กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget อีกครั้งสำหรับรอบนี้ครึ่งหลางปี 2025 ผมอาจจะเริ่มกับมือถือที่เรียกว่า เปิดตัวแต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าถึงกันกับ CMF Phone Pro 2 ใหม่จาก แบรนด์ลูกของ Nothing ที่มีความน่าสนใจเพราะ Brand นี้ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วรอบนี้เรามาดูกันว่าผมคิดเห็นอย่างไรกับมือถือรุ่นนี้
วิวัฒนาการจากมือถือแต่งได้สู่บางกว่าเดิม
ต้องยอมเรื่องหนึ่งสำหรับคนที่ติดตามมือถือจากค่าย “Nothing” คือเป็นการออกแบบที่เน้นความจริงใจ โปร่งใส แต่ CMF จะเน้นวัยรุ่นกว่าเห็นได้จากรุ่นแรกที่ออกมาอย่าง CMF Phone 1
เดิมที Concept รุ่นแรกที่ออกแบบเพื่อให้คุณปรับแต่งได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการใส่อุปกรณ์เสริม เปลี่ยนสีเคส และช่องต่างๆ ที่ต้องแกะด้วยน็อตเพื่อความแข็งแรง แต่พอรุ่น 2 เปลี่ยนไปเพราะเคสจะถอดเปลี่ยนไม่ได้แล้ว กับความบาง 7.8 มิลลิเมตร ถ้าเทียบกับมือถือในราคาไม่ถึง 9,000 บาท ถือว่าบางสุดๆ แล้วครับ
แม้ว่าจะบางแต่รอบนี้อัปเกรดกล้องที่ทำให้ถ่ายภาพจบทุกงานเพราะมี Ultra Wide + Telephoto มาด้วย นี่สิ! เรียกว่าครบจริง (ของเดิมไม่มี Telephoto)
ส่วนหน้าจอด้านหน้าใหญ่โตกับขนาด 6.77 นิ้ว ซึ่งต้องบอกแบบนี้ว่า มันเท่ากับ Nothing Phone (3a) แต่ว่าตัวเครื่องจะไม่ได้กว้างเท่านะครับ
โดยรวมการออกแบบถือว่าโดดเด่นกับสีสันที่ดุดันและอุปกรณ์เสริมบางชิ้นใช้กับรุ่นแรก และบางชิ้นต้องเป็นของเฉพาะ ซึ่งบอกก่อนนะครับว่า อุปกรณ์เสริมไม่ได้มีทุกชิ้นที่ขายในเมืองไทย
ประสิทธิภาพสูงขึ้น(จากรุ่นเดิม)
เดิมที CMF Phone 1 ใช้ Dimensity 7300 ซึ่งรุ่นใหม่นี้อัปเกรดให้ดีมากขึ้น (เล็กน้อย) โดยเป็นชิป Dimensity 7300-Ultra แต่ภาพรวมยังเล่นเกมได้ดีอยู่ระดับหนึ่ง การเชื่อมต่อทำได้ครบทั้ง Wi-Fi6, Bluetooth 5.4 การนำทางตอนแรกที่ลองใช้อาจจะมีเอ๋อๆ บ้างแต่พอลองเปิดปิด Apps ใหม่มันก็หาย
ส่วนแบตเตอรี่นั้นถ้าบอกว่าเครื่องบางแบบนี้จะให้น้อย ผิดครับ เพราะมือถือรุ่นนี้ให้แบตเตอรี่ 5000 mAh กำลังชาร์จไฟ 33W เอาตัวรอดได้ทั้งวัน ส่วน PCMark ทำได้ที่ ชั่วโมง เมื่อเทียบไปแล้วถือว่าอึด ถ้าไม่เล่นเกมยังไงก็รอดแน่นอน
ของดีคือ Nothing OS 3.2
CMF Phone 2 Pro มาพร้อมกับ Android 15 + Nothing OS 3.2 ล่าสุดที่โดดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Esstential Mode เก็บความทรงจำแค่แตะปุ่มด้านข้างขวา โดยสามารถเก็บทั้งภาพ, เสียง, และสามารถเก็บข้อความได้ นอกจากนี้ยังเป็นอีกทางเลือกไว้ให้ AI สรุปความทรงจำได้ แถมยังสามารถใช้ฟีเจอร์อย่าง Circle To Search และ Gemini
สำหรับการอัปเดตระยะยาวของ CMF Phone 2 Pro ทำได้ที่ 3 ปีกับระบบปฏิบัติการ และ Patch ความปลอดภัย
เรื่องที่ต้องสังเกตุ
- วัสดุที่เป็นแบบพลาสติกมากอาจจะต้องระวังหากเป็นสายซุ้มซ้าม เรื่องนี้เขาคิดมาแล้วโดยการให้เคสใสมา
- อุปกรณ์เสริม มาไม่ได้ครบดังนั้นเผื่อใจและถ้าไปต่างประเทศบ่อย เจอก็ซื้อมาใช้ได้เลย
- พลังไม่ได้แรง กับ Dimensity 7300-Max ต้องบอกว่าเล่นเกมมันได้แต่ Frame Rate สูงๆ ต้องทำใจ
- ทำไมหนอลำโพงคู่ก็ยังไม่มา
สรุปแล้วมันดีจริงไหม
CMF Phone 2 Pro จะดว่าเป็นมือถือในงบที่ราคาประหยัดแค่ 8,999 – 9,999 บาท ที่ได้ครบทุกฟีเจอร์ที่คุณคาดหวัง แต่อาจจะไม่ได้สุดทางเรื่องของประสิทธิภาพ เพราะสเปกของเครื่องยังเป็นข้อจำกัด แต่ถ้าใครชอบดีไซน์แปลก ประโยชน์ใช้สอยเป็นสิ่งที่คิดถึง และอนาคตอาจจะปรับแต่งให้ใส่อะไรได้กับมือถือเครื่องนี้ มันคือมือถือที่ผมว่าเหมาะ รวมถึงความบางมันคือใช้มากๆ อีกตัวหนึ่ง
อย่างที่บอกข้อสังเกต การซื้อมือถือค่ายนี้อย่าลืมถามเรื่องการเคลมให้ดีเพราะมีหลายเคสในกลุ่มที่ต้องพิจารณา และอีกสิ่งที่อยากบอกคือ Service ควรเปิด เสาร์ – อาทิตย์ ด้วยนะ
