ก่อนที่ Apple จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเรียบง่ายและผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในช่วงทศวรรษ 2000s บริษัทเคยผ่านช่วงเวลาแห่งการทดลองที่ไร้ทิศทางในยุค 90s มาก่อน Apple ในยุคนั้นขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ออกไปอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่กล้องดิจิทัลไปจนถึงเครื่องเกมคอนโซล ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกือบทำให้บริษัทล้มละลาย
การกลับมาของ Steve Jobs ในปี 1997 ได้เปลี่ยนทุกอย่าง เขาตัดสินใจยุบผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่อย่างเด็ดขาดเพื่อ “กอบกู้โฟกัส” ของบริษัทกลับคืนมา นี่คือ 5 ผลิตภัณฑ์จากยุคนั้นที่ไม่ได้เป็นเพียงของแปลก แต่เป็นบทเรียนสำคัญด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่โลก IT ต้องจดจำ





1. Newton eMate 300: เมื่อนวัตกรรมมาก่อนกาล (และผิดที่ผิดทาง) eMate 300 คืออุปกรณ์ไฮบริดที่น่าทึ่ง มันคือแล็ปท็อปขนาดเล็กสำหรับเด็กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Newton OS ของ PDA แม้จะมีคีย์บอร์ดและดีไซน์ที่ทนทาน แต่การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์กลับสับสน มันไม่ใชคอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบ และก็ไม่ใช่ PDA ที่พกพาง่าย การขาด Product-Market Fit ที่ชัดเจนทำให้มันไม่สามารถเจาะตลาดการศึกษาได้สำเร็จ และกลายเป็นหนึ่งในไลน์ผลิตภัณฑ์ Newton ที่ถูกยกเลิกทั้งหมด
2. QuickTake: บทเรียนแห่งการเข้าสู่ตลาดใหม่ QuickTake คือหนึ่งในกล้องดิจิทัลสำหรับผู้บริโภครายแรกๆ ของโลก และเป็นความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่อย่าง Kodak และ Fujifilm แต่ Apple กลับล้มเหลวในการสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน แม้จะเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่การขาดฟีเจอร์สำคัญ (เช่น การซูมหรือจอพรีวิวในรุ่นแรก) และการต้องต่อสู้กับแบรนด์กล้องที่แข็งแกร่งอย่าง Canon และ Nikon ทำให้ QuickTake เป็นเพียง “งานอดิเรก” ที่มีราคาแพงและไม่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้
3. Pippin: ความผิดพลาดของการต่อสู้ในสงครามที่ไม่ใช่ของตน การร่วมมือกับ Bandai สร้างเครื่องเกมคอนโซล Pippin คือการเดินหมากที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Apple ด้วยราคาที่สูงถึง $599 ทำให้มันแพงกว่าคู่แข่งอย่าง Sony PlayStation ($299) และ Nintendo 64 ($199) อย่างเทียบไม่ติด ประกอบกับจำนวนเกมที่น้อยและประสิทธิภาพที่ไม่โดดเด่น Pippin คือตัวอย่างคลาสสิกของการเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงโดยไม่มีความได้เปรียบที่ชัดเจนทั้งในด้านราคาและ Ecosystem
4. StyleWriter: เมื่อการทำทุกอย่างไม่ใช่คำตอบ ในยุค 90s Apple พยายามสร้างทุกอย่าง แม้กระทั่งพรินเตอร์อย่าง StyleWriter ซึ่งเป็นพรินเตอร์อิงค์เจ็ท แต่ Jobs มองเห็นว่าธุรกิจพรินเตอร์ไม่ใช่ธุรกิจหลักของ Apple การแข่งขันในตลาดนี้รุนแรงและมีกำไรต่ำ การตัดสินใจยุบแผนกพรินเตอร์และหันไปร่วมมือกับแบรนด์อย่าง HP หรือ Canon แทน คือการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เพื่อสงวนทรัพยากรไว้สำหรับนวัตกรรมที่เป็นแกนหลักของบริษัท
5. Studio Display (1998): สัญญาณแรกแห่งการกลับมา ไม่ใช่ทุกผลิตภัณฑ์ที่ถูกยกเลิก Studio Display รุ่นแรกที่เปิดตัวหลัง Jobs กลับมาไม่นาน คือสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ แม้จะมีราคาแพง ($1,999) และความละเอียดที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับปัจจุบัน (1024×768) แต่มันแสดงให้เห็นถึงทิศทางใหม่ของ Apple ที่จะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ดีไซน์สวยงาม และเป็นส่วนหนึ่งของ Mac Ecosystem ที่สมบูรณ์
เหตุที่ทำให้สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ไปต่อ เพราะการตัดสินใจของ Jobs ที่ไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการ “โฟกัส” อย่างถึงที่สุด ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ Apple สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนโลกอย่าง iMac, iPod, iPhone และ iPad ได้ในทศวรรษต่อมา
ที่มา : MacRumors