กว่าสองปีหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.8 แมกนิจูดที่ประเทศตุรกีเมื่อต้นปี 2023 ล่าสุด Google ได้ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการผ่านสื่อต่างประเทศ (BBC) ว่า Android Earthquake Alerts System ซึ่งเป็นระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวที่ใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์จากสมาร์ทโฟน Android ทั่วโลก ได้ทำงานผิดพลาดและล้มเหลวในการแจ้งเตือนผู้ใช้งานในวงกว้างได้อย่างที่ควรจะเป็น
เรื่องนี้ถือเป็นการกลับคำหลังจากที่ในช่วงแรก Google เคยระบุว่า “มั่นใจ” ว่าระบบทำงานได้ถูกต้อง แต่ข้อมูลใหม่ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายอย่างมหาศาลของการพัฒนาระบบเตือนภัยแบบเรียลไทม์ในสถานการณ์จริง
เกิดอะไรขึ้นกับระบบเตือนภัยในวันนั้น?
Android Earthquake Alerts System ถูกออกแบบมาให้มีการแจ้งเตือน 2 ระดับ ตามความรุนแรงที่คาดการณ์ได้:
- “BeAware” (แจ้งเตือนทั่วไป): เป็นการแจ้งเตือนแบบปกติสำหรับแผ่นดินไหวที่ไม่รุนแรงมาก
- “TakeAction” (แจ้งเตือนฉุกเฉิน): เป็นการแจ้งเตือนแบบเต็มหน้าจอพร้อมเสียงดังทะลุโหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) สำหรับแผ่นดินไหวที่คาดว่าจะสร้างความเสียหายรุนแรง
ในเหตุการณ์ที่ตุรกี ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวระดับหายนะ ปรากฏว่าระบบได้ประเมินความรุนแรงของแผ่นดินไหวหลัก (Main Shock) ต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าตกใจคือ:
- มีการส่งแจ้งเตือนระดับ “BeAware” ไปยังผู้ใช้ประมาณ 500,000 คน
- แต่มีการส่งแจ้งเตือนฉุกเฉินระดับ “TakeAction” ซึ่งเป็นระดับที่ควรจะส่ง ไปยังผู้ใช้เพียง 469 คน เท่านั้น
รายงานประเมินว่า หากระบบทำงานได้สมบูรณ์ จะสามารถส่งแจ้งเตือน “TakeAction” ไปยังผู้คนได้ถึง 10 ล้านคน ในรัศมี 158 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลาง ซึ่งอาจช่วยรักษาชีวิตผู้คนได้จำนวนมาก
Root Cause: ความล้มเหลวของ “อัลกอริทึม”
Google ชี้แจงว่าสาเหตุหลักของความล้มเหลวมาจาก “ข้อจำกัดของอัลกอริทึมในการตรวจจับ (limitations to the detection algorithms)” กล่าวคือ ในช่วงวินาทีแรกๆ ที่ระบบตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้ อัลกอริทึมไม่สามารถประเมินขนาดและความรุนแรงที่แท้จริงของแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ ทำให้ตัดสินใจส่งการแจ้งเตือนในระดับที่ไม่ถูกต้องออกไป
อย่างไรก็ตาม Google ได้ยืนยันว่าระบบสามารถทำงานได้เป็นปกติในการตรวจจับ Aftershocks ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน โดยมีการส่งแจ้งเตือนระดับสูงถึง 8,158 ครั้ง และแจ้งเตือนทั่วไปเกือบ 4 ล้านครั้ง ซึ่งบ่งชี้ว่าระบบได้รับการแก้ไขหรือปรับปรุงอย่างรวดเร็วหลังความผิดพลาดครั้งแรก และในการจำลองสถานการณ์ย้อนหลัง (Simulation) ก็พบว่าระบบสามารถส่งแจ้งเตือนได้อย่างถูกต้อง

บทเรียนที่ได้รับและข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใช้งาน
แม้จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ Google ก็ได้เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกจากการทำงานของระบบทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้:
- คนต้องการข้อมูล แม้ไม่รู้สึกถึงแรงสั่น: 79% ของผู้ที่ได้รับแจ้งเตือนแต่ไม่รู้สึกถึงแผ่นดินไหว ยังคงมองว่าการแจ้งเตือนนั้นมีประโยชน์ เป็นการยืนยันว่าผู้คนต้องการรับรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ระดับการแจ้งเตือนมีความแม่นยำ: ผู้ที่ได้รับแจ้งเตือน “TakeAction” มีแนวโน้มที่จะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงจริง ซึ่งแสดงว่าระบบสามารถแยกแยะความรุนแรงได้ดีในสถานการณ์ส่วนใหญ่
- การแจ้งเตือนนำไปสู่การกระทำที่ถูกต้อง: ผู้ที่ได้รับแจ้งเตือน “TakeAction” ส่วนใหญ่มีพฤติกรรม “หมอบ, หาที่กำบัง, และยึดเกาะ (Drop, Cover, and Hold On)” ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องและช่วยรักษาชีวิต
บทสรุปและมุมมองเชิงเทคนิค: เหตุการณ์ที่ตุรกีถือเป็นกรณีศึกษาครั้งสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติจริงของระบบ AI และ Big Data ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เดิมพันด้วยชีวิต แม้ความล้มเหลวของอัลกอริทึมจะเป็นเรื่องน่ากังวล แต่การยอมรับของ Google และการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปสู่การปรับปรุง ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพัฒนาระบบที่มีความซับซ้อนมหาศาลนี้ต่อไป ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เทคโนโลยีนี้ก็ยังมีศักยภาพที่จะช่วยชีวิตผู้คนได้อีกนับล้านในอนาคต
ที่มา : 9to5google