ถามกันมาเยอะเกี่ยวกับ RAM เพราะแต่ละรุ่นก็จะมีทั้ง RAM จริง และ RAM เสริมที่หลายคนไม่อยากเปิดใช้งานกัน แต่จริงๆ แล้วเปิดดีไหมวันนี้ เราจะมาคลายข้อสงสัยเรื่องนี้กันครับ
RAM / RAM เสริม ทำงานอย่างไร
หากจะบอกความหมายของ RAM อาจจะยาวเกินไป ดังนั้นเราขอสรุปแบบนี้ว่ามือถือในปัจจุบันมักจะมี RAM จริง (Physical RAM) คือมันคือเหมือนกับ “โต๊ะทำงาน” ของคุณ ยิ่งโต๊ะใหญ่ ก็ยิ่งวางเอกสาร (แอป) ที่ต้องใช้บ่อยๆ ได้เยอะ ทำให้หยิบใช้ได้ทันที รวดเร็วมาก แต่ถ้าเอาขึ้นเยอะเช่นเอกสารก็จะรกนั่นเอง
ทำให้จะต้องมี RAM เสริม (Virtual/Extended RAM) คือการที่เราไปเอา “ชั้นวางของข้างๆ โต๊ะ” ซึ่งก็คือ หน่วยความจำถาวร (ROM/Storage) ของเครื่อง มาใช้เป็นพื้นที่วางเอกสารชั่วคราว โดยเทคโนโลยีนี้มาจาก PC ก่อนและพัฒนามาให้กับมือถือไม่ว่าจะเป็น RAM Plus (Samsung), Extended RAM (Vivo), RAM Expansion (OPPO) เป็นต้น
มันทำงานอย่างไร?
กลไกการทำงานของมันค่อนข้างฉลาดและเป็นอัตโนมัติครับ
- เมื่อ RAM จริงใกล้เต็ม: สมมติคุณเปิดแอปไว้ 10 แอป (Facebook, LINE, YouTube, เกม, IG, ฯลฯ) จน RAM จริงขนาด 8GB ของคุณใกล้จะหมด
- ระบบจะหา “แอปที่ไม่ใช้งาน”: ระบบปฏิบัติการ (Android) จะมองหาว่าใน 10 แอปนั้น มีแอปไหนที่คุณเปิดทิ้งไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้ใช้งานนานแล้ว (เช่น เปิด Facebook ทิ้งไว้ แล้วไปเล่นเกม)
- ย้ายไป “พัก” ที่ RAM เสริม: ระบบจะคัดลอกข้อมูลของแอปที่ไม่ใช้งานเหล่านั้น จาก “โต๊ะทำงาน” (RAM จริง) ไปวางพักไว้ที่ “ชั้นวางของ” (RAM เสริม ที่ยืมมาจาก ROM)
- เพิ่มพื้นที่ว่างบน RAM จริง: เมื่อย้ายข้อมูลไปแล้ว พื้นที่บนโต๊ะทำงาน (RAM จริง) ก็จะว่างลง ทำให้คุณสามารถเปิดแอปใหม่ หรือสลับไปใช้แอปอื่นๆ ที่ต้องการความเร็วสูงได้โดยไม่กระตุก
- เรียกกลับมาใช้งาน: เมื่อคุณสลับกลับไปใช้แอปที่ถูกย้ายไปพักไว้ (เช่น กลับไปเปิด Facebook) ระบบก็จะดึงข้อมูลจาก “ชั้นวางของ” กลับมาวางบน “โต๊ะทำงาน” อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณใช้งานต่อได้ทันที โดยที่แอปไม่ต้องเริ่มต้นโหลดใหม่ทั้งหมด

มี RAM เสริม กับ ไม่มี ต่างกันอย่างไร? และจำเป็นไหม?
ข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือ “ความสามารถในการเปิดแอปค้างไว้ในพื้นหลัง (Multitasking)”
- มือถือที่ไม่มี RAM เสริม (โดยเฉพาะรุ่น RAM น้อย)
- เมื่อเปิดแอปเยอะจน RAM เต็ม ระบบจะบังคับปิดแอปเก่าๆ ที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไปเลย (Kill App)
- ผลลัพธ์: เมื่อคุณสลับกลับไปใช้แอปที่ถูกปิดไปแล้ว คุณจะเจออาการ “แอปรีเฟรช” หรือ “แอปโหลดใหม่” ต้องเห็นหน้าโลโก้แอปอีกครั้ง รอโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด ทำให้เสียเวลาและหงุดหงิด
- มือถือที่มี RAM เสริม
- เมื่อเปิดแอปเยอะจน RAM ใกล้เต็ม ระบบจะย้ายแอปเก่าๆ ไป “พัก” ไว้ใน RAM เสริมแทนการ “ปิดทิ้ง”
- ผลลัพธ์: เมื่อคุณสลับกลับไปใช้แอปนั้น มันจะถูกดึงกลับมาจาก RAM เสริม อาจจะช้ากว่าการดึงจาก RAM จริงเล็กน้อย (เสี้ยววินาที) แต่เร็วกว่าการโหลดใหม่ทั้งหมดมหาศาล คุณจึงใช้งานต่อจากจุดเดิมได้เลย
แต่ทั้งนี้การเล่นเกมอาจจะใช้งาน้บาง แต่ค่อนข้างนอก
แล้วมันจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ?
- สำหรับมือถือเรือธง (RAM 12GB ขึ้นไป): ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ เพราะ RAM จริงมีขนาดใหญ่มาก (โต๊ะทำงานใหญ่มาก) จนมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับทุกแอป การมี RAM เสริมจึงเหมือนเป็นฟีเจอร์ทางการตลาดมากกว่าการใช้งานจริง
- สำหรับมือถือระดับกลางและรุ่นเริ่มต้น (RAM 4GB/6GB/8GB): มีประโยชน์และจำเป็นมาก! นี่คือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้เต็มๆ เพราะช่วยแก้ปัญหา “RAM ไม่พอ” ที่เป็นจุดอ่อนสำคัญ ทำให้เครื่องที่สเปกไม่สูงสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ลื่นไหลขึ้นมาก ลดอาการแอปรีเฟรชได้อย่างเห็นผล
ที่คุณบอกว่า “เดี๋ยวนี้เป็นอุปกรณ์ที่มือถือขาดไม่ได้เลย” นั้นถูกต้องในแง่ของการตลาดและประสบการณ์ใช้งานในมือถือส่วนใหญ่ครับ เพราะมันเป็นวิธีที่ผู้ผลิตสามารถทำให้มือถือราคาประหยัดทำงานได้ดีขึ้นอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนจาก RAM จริงมากนัก
ข้อดี VS ข้อควรพิจารณา
ข้อดี (Pros) | ข้อควรพิจารณา (Things to Consider) |
เปิดแอปค้างไว้ได้เยอะขึ้น (Better Multitasking) | ความเร็วไม่เท่า RAM จริง: ROM ที่นำมาใช้เป็น RAM เสริมมีความเร็วในการอ่าน/เขียนช้ากว่าชิป RAM จริงหลายเท่า |
ลดปัญหาแอปโหลดใหม่ (App Refresh) | อาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน ROM: การเขียน/ลบข้อมูลใน RAM เสริมบ่อยๆ จะทำให้ ROM ทำงานหนักขึ้น อาจมีผลต่ออายุการใช้งานในระยะยาวมากๆ (แต่โดยทั่วไป ROM สมัยใหม่ทนทานมาก ผู้ใช้อาจเปลี่ยนโทศัพท์ก่อนที่ ROM จะเสื่อม) |
ทำให้เครื่องที่ RAM น้อยลื่นไหลขึ้น |

ดังนั้นเราขอสรุปง่ายๆ ว่า จริงแล้ว RAM เสริมคือเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สุดฉลาดที่ช่วยให้มือถือ (โดยเฉพาะรุ่นกลางและเล็ก) จัดการหน่วยความจำได้ดีขึ้น มันไม่ใช่ยาวิเศษที่ทำให้เครื่องเร็วเท่าเรือธง และความเร็วก็สู้ RAM จริงไม่ได้ แต่มันเป็น “ผู้ช่วย” ที่ดีมากในการทำให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมของคุณราบรื่นขึ้น ไม่ต้องทนกับปัญหาแอปโหลดใหม่บ่อยๆ นั่นเองครับ