สวัสดีครับ! Bigglive’s Tales สัปดาห์นี้กลับมาแล้วรอบนี้เราจะขอเล่าเรื่องใกล้ตัวสำหรับผม แต่มันคือการเปิดเผยเบื้องหลังการทำงานของผมโดยเฉพาะบทความยาว เพื่อให้คุณตัดสินใจกับการซื้อมือถือหรือ Gadget (ในอนาคต) ไขข้อสงสัย มาเริ่มกันเลย
ทำไมคลิปยาว!!!
จริงๆ ของคนอื่นก็ยาว แต่ที่พูดเลยว่ายาวก็เพราะ ส่วนตัวเป็นคนที่ลงรายละเอียดเยอะเวลาถ่ายรีวิวที่ออกมานั้นจริงๆ มันยาวกว่านั้นเลยตัดออกไปพอสมควร ดังนั้นถ้ายาวจะอยู่ที่ฟีเจอร์ของเครื่องซะมากกว่านะ!! (ไม่รวมกับเรื่องข้างล่างนี้)
Benchmark ที่เทสไว้ จะเทสทำไม
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพที่ยังต้องทำอยู่เพราะในเรื่องการประมวลผลตัวเครื่องเล่นเกมอย่างเดียวไม่พอ การที่ได้โปรแกรมทดสอบก็ทำให้ตัวเลขออกมาช่วยประเมินได้ว่าเป็นอย่างไร แต่โปรแกรมที่ทดสอบเบื้องต้นจะมีดังนี้
AnTuTu: ภาพรวมประสิทธิภาพแบบครบวงจร
AnTuTu เป็นแอปฯ ที่ให้คะแนนภาพรวมของประสิทธิภาพเครื่อง โดยจะทำการทดสอบองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน แล้วนำคะแนนมารวมกัน ได้แก่:
- CPU (หน่วยประมวลผลกลาง): เปรียบเสมือน “สมอง” ของมือถือ คะแนนส่วนนี้จะบอกถึงความสามารถในการประมวลผลโดยรวม การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) และความเร็วในการเปิด-ปิดแอปพลิเคชัน
- GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก): คือหัวใจสำคัญของการเล่นเกมและการแสดงผลภาพสามมิติ คะแนน GPU จะบ่งบอกว่ามือถือเครื่องนั้นสามารถเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้ลื่นไหลแค่ไหน รวมถึงความสามารถในการเรนเดอร์ภาพและวิดีโอ
- MEM (หน่วยความจำ): ทดสอบความเร็วของ RAM และหน่วยความจำภายใน (ROM) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความเร็วในการเรียกใช้ข้อมูลและเปิดแอปฯ ยิ่งคะแนนสูง แอปฯ ก็จะยิ่งโหลดเร็วและสลับการใช้งานได้ไวขึ้น
- UX (ประสบการณ์ผู้ใช้): วัดความลื่นไหลในการใช้งานทั่วไป เช่น การเลื่อนหน้าจอ, การตอบสนองของทัชสกรีน และการจัดการข้อมูล
3DMark: เจาะลึกประสิทธิภาพการเล่นเกม 🎮
หากคุณเป็นเกมเมอร์ตัวยง 3DMark คือแอปฯ ที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบ “พลังการประมวลผลกราฟิก (GPU)” และ CPU ในการเล่นเกมโดยเฉพาะ 3DMark มีชุดการทดสอบหลากหลายเพื่อจำลองสถานการณ์การเล่นเกมที่แตกต่างกัน เช่น:
- Wild Life & Wild Life Extreme: ทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมบนกราฟิกระดับสูงในปัจจุบัน
- Solar Bay: ทดสอบความสามารถในการจัดการกับเทคโนโลยี Ray Tracing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแสดงแสงและเงาแบบสมจริงในเกมยุคใหม่
- Stress Test: เป็นการทดสอบระยะยาวเพื่อดูว่าประสิทธิภาพของเครื่องจะลดลงหรือไม่เมื่อต้องทำงานหนักต่อเนื่อง ซึ่งบ่งบอกถึงระบบระบายความร้อนของเครื่องได้เป็นอย่างดี
Geekbench 6: วัดพลัง “สมอง” ของ CPU 🧠
Geekbench 6 เน้นการทดสอบประสิทธิภาพของ CPU เป็นหลัก โดยจะให้ผลคะแนนออกมา 2 ส่วนที่สำคัญ คือ:
- Single-Core (ประสิทธิภาพแกนเดียว): คะแนนนี้บ่งบอกถึงความเร็วในการประมวลผลงานพื้นฐานทั่วไปที่มักใช้ CPU เพียงแกนเดียว เช่น การเปิดแอปฯ, การท่องเว็บ หรือการใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วไป คะแนนส่วนนี้ที่สูงจะทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันรู้สึกรวดเร็วและตอบสนองได้ดี
- Multi-Core (ประสิทธิภาพหลายแกน): วัดความสามารถของ CPU ในการทำงานหนักๆ ที่ต้องใช้พลังการประมวลผลจากทุกแกนพร้อมกัน เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การเล่นเกมระดับสูง หรือการประมวลผล AI และ Machine Learning ที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ Geekbench 6 ยังมีการทดสอบ GPU Compute เพื่อวัดศักยภาพของ GPU ในงานด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการเล่นเกม เช่น การประมวลผลภาพและวิดีโอ
แบตเตอรี่จะทดสอบยังไง
นอกจากเรื่องของแบตเตอรี่ที่เราจะต้องใช้งานจริงโดยต้องแบบเดียวกับที่มือถือเครื่องหลักที่ใช้ทำให้ได้ผลออกมาว่าอึดไหมชาร์จไฟกี่รอบ เพื่อบอกแต่มีอีกตัวเลือกคือ PCMark สำหรับมือถือ Android
การทดสอบแบตเตอรี่ของ PCMark ไม่ใช่แค่การเปิดหน้าจอทิ้งไว้เฉยๆ แต่มันคือการ จำลองการใช้งานจริงแบบวนลูป (Loop) โดยเครื่องจะทำงานต่างๆ สลับกันไปเรื่อยๆ เหมือนที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งประกอบไปด้วย:
- การท่องเว็บ (Web Browse)
- การแก้ไขรูปภาพ (Photo Editing)
- การตัดต่อวิดีโอ (Video Editing)
- การทำงานกับเอกสารและข้อมูล (Working with Documents and Data)
แอปฯ จะเริ่มการทดสอบเมื่อแบตเตอรี่มีประจุมากกว่า 80% และจะทำงานวนไปเรื่อยๆ พร้อมกับวัดประสิทธิภาพของเครื่องในแต่ละรอบ จนกระทั่งแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 20%
ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร?
ผลการทดสอบจะแสดงเป็น “เวลา” (ชั่วโมงและนาที) ที่เครื่องสามารถทำงานต่อเนื่องได้ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนความอึดของแบตเตอรี่ในการใช้งานจริงได้ดีกว่าการดูแค่ความจุแบตเตอรี่ (mAh) เพียงอย่างเดียว
อนาคตกับการทดลอง
สำหรับรูปแบบนี้ยังคงเป็นของมือถือที่อาจจะแตกต่างจาก Notebook (บางรูปแบบคล้ายกัน) เพื่อทำให้คุณได้รับข้อมูลและตัดสินใจได้ดี แถมบางครั้งรีวิวที่ทำไปผมย้อนกลับมาดูเพื่อจะเช็คก่อนที่จะรีวิวรุ่นที่เป็นการวิวัฒนาการ ดังนั้นความยาวของรีวิวเลยยาวและอนาคตก็อาจจะปรับเปลี่ยนตามเทรนด์แต่ยังคงมีรูปแบบเดิมอยู่
EP แรกก็แค่นี้ ครั้งหน้าจะมาเล่าอะไรให้ฟังกันต่อและเป็น IT Tips หรือไม่รอติดตามกันนะครับ
