ทรู คอร์ปอเรชั่น ออกประกาศเตือนผู้บริโภคให้ระวังมิจฉาชีพที่กำลังระบาด โดยใช้วิธีแอบอ้างเป็นพนักงานของทรู เข้าไปเสนอโปรโมชันติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านในราคาที่ถูกกว่าปกติ เพื่อหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินค่าสมัครหรือค่าบริการเข้าบัญชีส่วนบุคคลของมิจฉาชีพโดยตรง
พฤติกรรมของมิจฉาชีพที่ควรระวัง
- เสนอโปรโมชันราคาถูกเกินจริง: มิจฉาชีพจะใช้ราคาที่น่าดึงดูดใจเป็นเหยื่อล่อ
- เรียกเก็บเงินค่าสมัครทันที: มีการเรียกเก็บเงินสด หรือเร่งรัดให้โอนเงินค่าบริการล่วงหน้า
- ใช้บัญชีโอนเงินส่วนบุคคล: จุดสังเกตที่สำคัญที่สุดคือ การให้โอนเงินเข้า “บัญชีชื่อบุคคลธรรมดา” ไม่ใช่บัญชีในนามบริษัท ทรู คอร์ปอ-เรชั่น
ขั้นตอนที่ถูกต้องของทรู (TRUE) ที่ผู้ใช้บริการควรรู้ ทรูได้ออกมายืนยันขั้นตอนการดำเนินงานที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกค้ารู้เท่าทันและป้องกันตัวเองได้ ดังนี้:
- ไม่มีนโยบายเก็บเงินสด: พนักงานที่ไปนำเสนอโปรโมชัน มีหน้าที่เพียงให้ข้อมูลและแนะนำบริการเท่านั้น จะไม่มีการเรียกเก็บเงินสดหรือให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวเด็ดขาด
- การชำระเงินต้องมีใบแจ้งหนี้: การชำระค่าบริการที่ถูกต้อง จะต้องชำระผ่านใบแจ้งค่าบริการ (Invoice) ที่ทรูจัดส่งให้ตามที่อยู่ที่ลูกค้าระบุไว้อย่างเป็นทางการเท่านั้น
- ยืนยันการติดตั้งจากเบอร์ 1242: หากลูกค้าสมัครบริการสำเร็จ จะได้รับการติดต่อเพื่อยืนยันข้อมูลและนัดหมายวันติดตั้งจากเบอร์โทรศัพท์ 1242 เท่านั้น
- ตรวจสอบได้ผ่าน True App: ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดและสถานะการสมัครบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันทรู
วิธีป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพ
- ตรวจสอบรหัสพนักงาน: ก่อนรับบริการใดๆ ควรขอดูบัตรและตรวจสอบรหัสพนักงานทุกครั้ง
- ห้ามโอนเงินเข้าบัญชีบุคคล: การชำระเงินกับทรูต้องทำผ่านช่องทางที่เป็นทางการของบริษัทเท่านั้น
- อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว: ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ เช่น เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลทางการเงิน
- โทรสอบถามทันที: หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ ให้ติดต่อ Call Center ของทรูที่เบอร์ 1242 ทันที
ในยุคดิจิทัลที่มิจฉาชีพมีกลโกงหลากหลายรูปแบบ การตรวจสอบข้อมูลและสังเกตความผิดปกติอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้การใช้บริการต่างๆ ปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
