Category: ประชาสัมพันธ์
-
เปิดตัวแล้ว Infinix ZERO 40 5G จัดหนักด้านกล้อง ในงบ 14,999 บาท
อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกที่คุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง ZERO 40 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดและเป็นสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเหนือระดับกล้องสามารถบันทึกวิดีโอความชัดระดับ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง พร้อมด้วยฟีเจอร์ ProStable video นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับ GoPro ได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยคุณภาพของกล้องถ่ายภาพและการออกแบบอันโดดเด่น ZERO 40 5G รุ่นนี้จึงเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มาตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่รักการถ่าย Vlog และสร้างคอนเทนต์บนโลกโซเชียล ประสิทธิภาพการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอและVlog ที่สามารถจับภาพเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ Infinix ZERO 40 5G ได้ยกระดับประสบการณ์การถ่าย Vlog ด้วยประสิทธิภาพกล้องที่เหนือชั้น รองรับการใช้งาน AI ได้อย่างครอบคลุม ส่วนของกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 50MP สามารถบันทึกวิดีโอ Ultra-HD 4K 60FPS ZERO40 มาพร้อมฟีเจอร์ OIS+EIS ProStable video หรือระบบกันสั่นที่ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอมีความเสถียร และมอบความคมชัดระดับ 4K และมาพร้อมกับความละเอียด 108MP OIS สำหรับการเก็บภาพที่มีรายละเอียดซับซ้อนนอกจากนี้ยังมีเลนส์ Ultra-Wide มุมกว้าง 120° กับเซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 50MP และยังเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนอินฟินิกซ์กับการใช้เลนส์ Ultra-Wide มุมกว้าง 50MP อีกด้วย และไม่ว่าจะถ่ายภาพเซลฟี่หรือบันทึกวิดีโอด้วย PDAF (Phase Detection AutoFocus) ก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่าภาพถ่ายจะมีความคมชัดและสมบูรณ์แบบทุกช็อต ด้านการบันทึกวิดีโอ ZERO 40 5G มาพร้อมไมโครโฟน 3 ตัวที่ช่วยบันทึกเสียงได้อย่างมีคุณภาพและแม่นยำ มอบระบบเสียงสเตอริโอที่มีคุณภาพ และสมจริง และยังสามารถลดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพและวิดีโอให้เลือกได้หลากหลาย อาทิ Vlog Mode ที่ให้การสร้างสรรค์ Vlog เป็นเรื่องง่ายและสนุก พร้อมคำแนะนำให้ผู้ใช้งานสามารถ่าย Vlog ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว และหากต้องการใช้งานภาพถ่ายหรือวิดีโอที่หลากหลายในการสร้างสรรค์ Vlog ผู้ใช้งานสามารถเลือกเทมเพลตที่มีอยู่ในเครื่องและ ZERO 40 5G จะช่วยค้นหาภาพถ่ายและวิดีโอไฮไลท์โดยอัตโนมัติเพื่อสร้าง Vlog สำหรับคุณ ตลอดจนสามารถแชร์วิดีโอลงบนโซเชียลทุกแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ช่วยให้การบอกเล่าทุกช่วงเวลาในชีวิตเป็นเรื่องง่าย และโหมด GoPro ที่ผู้ใช้สามารถปรับพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของกล้อง GoPro อาทิ ISO ความเร็วชัตเตอร์ โหมดโฟกัส ฯลฯ…
-
Garmin FENIX 8: มัลติสปอร์ตสมาร์ทวอทช์พรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด ท้าทายทุกขีดจำกัด
Garmin ยกระดับมาตรฐานสมาร์ทวอทช์อีกครั้ง ด้วย FENIX 8 ซีรีย์ใหม่ล่าสุด ดีไซน์พรีเมียม ฟังก์ชั่นล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายผจญภัย นักกีฬา หรือผู้รักสุขภาพ ไฮไลท์สำคัญ: FENIX 8 เหมาะกับใคร? FENIX 8 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้! สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับกับ FENIX 8 ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปอีกขั้นได้แล้ววันนี้
-
เพาเวอร์บาย จัดแคมเปญ “คิดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า คิดถึงเพาเวอร์บาย” ลดสูงสุด 50% พร้อมโปรฯ สุดคุ้มอีกเพียบ!
นักช้อปเตรียมตัวให้พร้อม! เพาเวอร์บาย จัดมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดราคาสูงสุด 50% พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 โปรโมชั่นเด็ด: พิเศษ! โปรดับเบิ้ลเดย์ 9.9: สินค้าไฮไลท์: ช้อปได้ทุกช่องทาง: อย่าพลาด! มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดกระหน่ำที่เพาเวอร์บาย ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 นี้เท่านั้น!
-
“แอนิเทค” ตอกย้ำกระแสอาร์ตทอย หมื่นล้าน! สร้างปรากฏการณ์ใหญ่อีกครั้ง
“แอนิเทค” กับก้าวสำคัญสู่ตลาดต่างประเทศ ชูกระแสอาร์ตทอยที่กำลังลามไปทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทุ่มงบการตลาด 10 ล้านบาท เดินหน้าคอลแลปส์แบรนด์สุดดิ้วท์ระดับโลก “ซานริโอ” ผุดแคมเปญ “anitech Sanrio ART N’JOY COLLABORATION” ผ่านโปรดักส์กว่า 35 รายการ สะท้อน ความน่ารักของเหล่าตัวละครสุดโด่งดัง ระดับตำนานแห่งวงการอาร์ตทอย ที่ครองใจแฟนคลับในทุกช่วงวัย หรือ Kidult ตั้งเป้าสร้างยอดขาย 50 ล้านบาท คุณโธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวแคมเปญ “anitech Sanrio ART N’JOY COLLABORATION” ว่า “นับเป็นก้าวสำคัญของแอนิเทคในการเจาะกระแสและต่อยอดความนิยมอาร์ตทอยที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก โดยมูลค่าตลาด อาร์ตทอยของโลกสูงถึง 8,517.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ในทวีปเอเชีย เป็นมูลค่ากว่าครึ่ง เราจึงเล็งเห็นโอกาสทั้งตลาดในประเทศไทยที่มีศักภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว กลุ่มผู้ซื้อมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด…
-
ไลเฟ่น มินิ ไดร์เป่าผมพลังแรง ขนาดพกพา ดีไซน์หรู
ไลเฟ่น ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี ทางด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) และด้านการผลิต ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลส่วนบุคคลที่ล้ำสมัย เปิดตัว LAIFEN MINI (ไลเฟ่น มินิ) ไดร์เป่าผมความเร็วสูง ขนาดเล็กกว่าที่เคย พกพาไปได้ทุกที่ ด้วยตัวเครื่องเล็กมีน้ำหนักเบาเพียง 299 กรัม โดดเด่นด้านประสิทธิภาพที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของไลเฟ่น โดยมอเตอร์สามารถหมุนได้เร็วถึง 110,000 รอบต่อนาที และให้ความเร็วลมสูงสุดถึง 19 เมตรต่อวินาที การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลมไหลเวียนแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ผมแห้งเร็วภายใน 5 นาทีอีกด้วย เทียบเท่าไดร์เป่าผมขนาดใหญ่ แต่ไร้ซึ่งเสียงรบกวน LAIFEN MINI มาพร้อมระบบควบคุมความอุณภูมิอัจฉริยะที่เป็นคุณสมบัติโดดเด่นคือ มีโหมดความร้อนพิเศษสำหรับเด็ก ด้วยการตั้งค่าอุณหภูมิที่ปลอดภัยขึ้น ช่วยป้องกันเส้นผมและหนังศีรษะที่บอบบางของเด็ก LAIFEN MINI ยังมีดีไซน์สวย ล้ำสมัย ที่ออกแบบด้ามจับให้มีขนาดเล็กขึ้น ช่วยให้จับได้สบายมือ เพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านการมองเห็นและการสัมผัส มี 4 สีให้เลือก ได้แก่ Matcha Green, Sakura Pink, Baby Blue…
-
เปิดตัว JBL LIVE SERIES 3 หูฟังเสียงดีคมชัดทุกรายละเอียดเสียงที่มาพร้อม SMART CHARGING CASE
กลับมาอีกครั้ง กับ JBL LIVE SERIES 3 หูฟัง True Wireless รุ่นใหม่จาก JBL ที่จัดเต็มไปด้วยคุณภาพคมชัดทุกรายละเอียดเสียงด้วยเทคโนโลยี Hi-Res Audio พร้อมยกระดับไปอีกขั้นเพราะเป็นหูฟังที่มี Smart Charging Case TM จอขนาด 1.45 นิ้ว ที่สามารถใช้งานง่ายๆได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสโดยไม่จำเป็นต้องเข้าถึงแอพ JBLบนมือถือ สามารถชาร์จเร็วเพียง 10 นาทีด้วย USB Type-C จะทำให้ใช้งานได้นานขึ้นอีก 4 ชั่วโมง พร้อมรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้อีกด้วย และยังสามารถปรับแต่งเสียงได้ตามที่ต้องการ บอกเลยเหมาะกับทุกคนทุกไลฟ์สไตล์แน่นอนแถมมีมาให้เลือกกันถึง 3 รุ่น JBL LIVE BEAM 3 ,JBL LIVE BUDS 3 และJBL LIVE FLEX 3 เริ่มต้นกันที่ JBL LIVE BEAM 3 หูฟังเสียงดีใส่ทุกที่ไม่ต้องกลัวหลุด…
-
หัวเว่ยประกาศเปิดตัวระบบ TruSense ใหม่ ยกระดับความสามารถสมาร์ทวอทช์
หัวเว่ยได้เปิดตัวระบบ HUAWEI TruSense ใหม่ ด้วยแนวคิดที่ว่าเมื่อสุขภาพที่ดีสามารถวัดปริมาณได้ ผู้ใช้ก็สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ และเป็นอีกก้าวสําคัญในการนําเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่แม่นยําและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาสู่ผู้ใช้ หัวเว่ยเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์สวมใส่เมื่อ 11 ปีที่แล้ว และจนถึงปัจจุบันได้จัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ไปแล้วกว่า 150 ล้านเครื่อง และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้แอป Huawei Health มากกว่า 520 ล้านคน จากข้อมูลของ IDC ในไตรมาสแรกของปี 2024 หัวเว่ยอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลกในแง่ของการจัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ และเป็นแบรนด์อุปกรณ์สวมใส่ชั้นนําในตลาดประเทศจีนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน “TruSense ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสําคัญสําหรับหัวเว่ยในด้านเทคโนโลยีเซ็นเซอร์เพื่อสุขภาพและฟิตเนส และจะทําให้หัวเว่ยอยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ ความก้าวหน้าด้านสุขภาพทางดิจิทัลนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น” คุณ Rico Zhang ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สวมใส่อัจฉริยะและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของหัวเว่ยกล่าวที่เปิดตัวระบบ HUAWEI TruSense”TruSense ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสําคัญสําหรับหัวเว่ยในด้านเทคโนโลยีเซ็นเซอร์เพื่อสุขภาพและฟิตเนส และจะทําให้หัวเว่ยอยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ ความก้าวหน้าด้านสุขภาพทางดิจิทัลนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น” คุณ Rico Zhang ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สวมใส่อัจฉริยะและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของหัวเว่ยกล่าวที่เปิดตัวระบบ HUAWEI TruSense ผู้บริโภคทั่วโลกใส่ใจในสุขภาพมากกว่าที่เคยเป็นมา และสิ่งนี้ได้ก่อให้เกิดความต้องการความสามารถในการตรวจสอบที่สะดวก ครอบคลุม และแม่นยํา การตอบสนองต่อความต้องการนี้ของหัวเว่ยคือระบบที่รวมเอาความก้าวหน้าล่าสุดทั้งหมดของบริษัทในการตรวจติดตามสัญญาณชีพเข้าด้วยกัน นั่นคือ ระบบ HUAWEI TruSense ซึ่งเป็นระบบการตรวจวัดด้านสุขภาพและฟิตเนสดิจิทัลรูปแบบใหม่ โดดเด่นด้วยความแม่นยํา ความครอบคลุม ความเร็ว และความยืดหยุ่น เพื่อให้แน่ใจว่ามีความแม่นยําในระยะยาวของการตรวจวัดค่าสำคัญของร่างกายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น หัวเว่ยจึงลงทุนอย่างมากในการวิจัยด้านคลื่นไฟฟ้าและวัสดุโดยมีเป้าหมายเพื่อประสิทธิภาพของการตรวจของโทนสีผิวที่แตกต่างกัน ขนาดข้อมือ และสภาพอากาศที่เกิดขึ้นกับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ HUAWEI TruSense วัดตัวชี้วัดสุขภาพและสมรรถภาพทางกายมากกว่า 60 รายการ…
-
เปิดตัว HUAWEI Sound Joy 2 ใหม่ล่าสุด ราคาสุดพิเศษ 3,999 บาทที่ TikTok Shop เท่านั้น
หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) จับมือร่วมกับ TikTok Shop ประกาศการเปิดตัววางจำหน่าย HUAWEI Sound Joy 2 ลำโพงเสียงกระหึ่มด้วยลำโพง 4 ดอกดังสะใจ ป้องกันละอองนํ้าและฝุ่น IP67 ใช้ไปงาน ๆ ต่อเนื่อง 26 ชั่วโมง พร้อมจัดโปรโมชันเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน TikTok Shop ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 20.00 น. ถึง 7 กันยายน 2567 เท่านั้น ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยมุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย HUAWEI Sound Joy 2 ลำโพงอัจฉริยะที่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ประเภท “8” ในกรอบธุรกิจ “1+8+N” ของหัวเว่ย และเป็นองค์ประกอบสำคัญของสมาร์ทโฮมอีโคซิสเต็มที่หัวเว่ยเดินหน้าลงทุนในการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านเสียงมาโดยตลอดควบคู่กับการเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับพฤติกรรมการเสพความบันเทิงของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับการช่องทางอีคอมเมิร์ซ การจับมือร่วมกับ TikTok Shop ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับ HUAWEI Sound Joy 2 โดยมีจุดมุ่งหมายที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความบันเทิงของคนรุ่นใหม่ สร้างความเป็นคอมมูนิตี้เชื่อมโยงผ่านเสียงเพลง และสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ส่งมอบข้อเสนอสุดพิเศษและประสบการณ์การสั่งซื้อให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายและเข้าถึงสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพครบจบในแอปเดียว คุณกชกร จิตพนอรักษ์ Head of Electronics, E Commerce, TikTok Shop Thailand กล่าวว่า “ความร่วมมือกับทางหัวเว่ยเพื่อเปิดตัวและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ HUAWEI Sound Joy 2 แบบเอ็กซ์คลูซีฟเป็นที่แรกกับ TikTok Shop ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมนี้ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาสำคัญก่อนเข้าสู่เทศกาล Mega Sales 9.9 ที่นอกจากจะเป็นช่วงที่มีโอกาสในการขายมากที่สุดแล้ว ช่วงสัปดาห์แรกในการเปิดตัวสินค้ามักจะเป็นช่วงที่ผู้ซื้อมีความต้องการในตัวผลิตภัณฑ์มากที่สุดด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกจัดจำ หน่ายเฉพาะที่ TikTok Shop ในช่วงเวลาดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจจากแบรนด์ชั้นนำ…
-
AIS Serenade ก้าวสู่ปีที่ 20 บทพิสูจน์ความสำเร็จยืนหนึ่งเป็น Brand Love ในใจลูกค้า
กว่า 34 ปี ของ AIS ในการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากความแข็งแกร่งในด้านคุณภาพโครงข่ายและการมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว AIS ก็ยังคงยืนหนึ่งด้านงานบริการและสิทธิพิเศษเพื่อลูกค้าที่สามารถตอบทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่าง โดยเฉพาะโปรแกรมดูแลลูกค้าอย่าง AIS Serenade ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานงานบริการและการดูแลลูกค้าในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยตั้งแต่ปี 2004 นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จจากความตั้งใจตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ AIS จนได้รับการยอมรับจากลูกค้า ผ่านการส่งมอบงานบริการที่เป็นเลิศเหนือความคาดหมาย และสิทธิพิเศษโดนใจที่จับต้องได้จริง ก้าวย่างสำคัญสู่ปีที่ 20 ของ AIS Serenade จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่จะยกระดับการทำงานให้มากกว่าให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า สู่การสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่มีความหมายรวมถึงความเข้าใจและใส่ใจในทุกมิติของชีวิตลูกค้า ด้วยกลยุทธ์ Human-Centered Design พร้อมเตรียมงบประมาณ 20 ล้านบาท เฉลิมฉลองผ่านแคมเปญ “AIS Serenade 20th Anniversary ด้วยใจ ได้ทุกเจน” นางสาวโอปอล เลิศอุทัย หัวหน้าฝ่ายงานบริหารข้อเสนอและความผูกพันลูกค้า AIS กล่าวว่า “Serenade คือหนึ่งในความภาคภูมิใจของพวกเราชาว AIS ที่สามารถส่งมอบบริการสิทธิพิเศษและประสบการณ์พิเศษเหนือระดับให้กับลูกค้าได้มากกว่าโปรแกรมการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ CRM ที่เห็นทั่วไปในตลาด ด้วยการวางรากฐานในการสร้างงานบริการเพื่อสร้างความพิเศษในมิติต่างๆ ทั้งการเปิด Serenade Club สาขาแรกที่เซ็นทรัล ชิดลม การเปิดตัวบริการผู้ช่วยส่วนตัวหรือ PA (Personal Assistant) ให้กับลูกค้ากลุ่ม Platinum รวมถึง Exclusive Privilege ทั้ง กิน ท่องเที่ยว และช้อปปิ้ง ที่ไม่ใช่แค่ส่วนลด แต่เราทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษกว่าคนอื่น เส้นทางความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาของ Serenade จึงกลายเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งในการมัดใจลูกค้าด้วยสัดส่วนตัวเลขมากกว่า 60% ของลูกค้า Serenade อยู่กับ AIS มานานกว่า 10 ปี รวมถึงยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการทำงานของพวกเราเพื่อความพึงพอใจให้ลูกค้าได้รับความพิเศษที่ดียิ่งขึ้นในทุกวัน ทำให้ผลสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าหรือ Net Promoter Score (NPS) เป็นบวกมาอย่างต่อเนื่อง” วันนี้ Serenade มีฐานลูกค้ารวมกว่า 6 ล้านราย คิดเป็น 12% ของฐานลูกค้าทั้งมือถือและเน็ตบ้าน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างรายได้รวมได้กว่า 40% นอกจากนี้โปรแกรม Serenade ยังช่วยสร้างความผูกพันและรักษาลูกค้าให้อยู่กับ AIS ได้นานกว่าปกติถึง 5 เท่า โดยแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าแพลทินัม 3 แสนราย, ลูกค้าโกลด์ 2 ล้านราย…
-
RTB เปิดตัว Cricut EasyPress 3 และสติ๊กเกอร์รีดร้อน Printable Iron-on เอาใจสาย DIY
RTB ผู้นำเข้าสินค้า Gadget รายใหญ่ เดินหน้าบุกตลาด DIY เต็มสูบ เปิดตัวเครื่องรีดร้อนรุ่นใหม่ล่าสุด “Cricut EasyPress 3” พร้อมสติ๊กเกอร์รีดร้อน Printable Iron-on ที่ช่วยให้สร้างสรรค์ลวดลายบนผ้าได้หลากหลาย ตอบโจทย์คนรักงานฝีมือ DIY Cricut EasyPress 3 มาพร้อมบลูทูธในตัว ควบคุมผ่านแอป ใช้งานง่าย ไม่ต้องตั้งค่าเอง แผ่นความร้อนเคลือบเซรามิกช่วยกระจายความร้อนสม่ำเสมอ รีดลายลงบนผ้าได้แม่นยำ ปรับอุณหภูมิได้ถึง 205 องศา ใช้งานปลอดภัยด้วยฐานกันความร้อนและระบบปิดอัตโนมัติ ราคา 8,290 บาท สติ๊กเกอร์รีดร้อน Printable Iron-on มีทั้งแบบสำหรับผ้าสีอ่อนและผ้าสีเข้ม พิมพ์ลายจากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท แล้วนำไปรีดติดบนผ้าได้หลากหลาย ต้องใช้ร่วมกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทและเครื่องตัดสติ๊กเกอร์ Cricut Maker 3 หรือ Cricut Explore 3 เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ใช้คู่กับเครื่องรีดร้อน Cricut EasyPress ราคา 460 บาท หาซื้อ…