ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ใช้เทคโนโลยีสู้ความท้าทายพลังงานและความยั่งยืนทั่วโลก

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกที่เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการพลังงาน ไฟฟ้า และระบบอัตโนมัติต่างๆ (นึกภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน โรงงาน หรือระบบใหญ่ๆ) กำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่อง “ความยั่งยืน” (Sustainability) หรือการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม

ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก?

โลกเรากำลังเจอความท้าทายสำคัญหลายอย่างพร้อมกัน

  1. โลกร้อน (Climate Change): ปัญหานี้ส่งผลกระทบกับทุกคนและทุกธุรกิจทั่วโลก
  2. เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Digitalization & AI): การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้ ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะใน “ดาต้าเซ็นเตอร์” (Data Center) หรือศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เป็นหัวใจของอินเทอร์เน็ตและบริการออนไลน์ต่างๆ
  3. พลังงานยุคใหม่ (Energy Transition): ทั่วโลกกำลังพยายามเปลี่ยนไปใช้พลังงานที่สะอาดขึ้น แต่ก็ยังมีความท้าทาย การใช้พลังงานที่มีอยู่ให้ “มีประสิทธิภาพ” ที่สุดจึงสำคัญมาก

แล้ว ชไนเดอร์ฯ เสนอทางออกอย่างไร?

พวกเขาเชื่อว่า “เทคโนโลยีดิจิทัล” สามารถผนวกรวมกับ “ระบบไฟฟ้า” เพื่อสร้างความยั่งยืนได้ หรือจำง่ายๆ ว่า “ดิจิทัล + ไฟฟ้า = ยั่งยืน” โดยมีแนวทางหลักๆ คือ:

  • วางแผน (Strategize): ช่วยธุรกิจต่างๆ วางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน
  • ใช้ดิจิทัล (Digitize): นำเทคโนโลยี เช่น ซอฟต์แวร์, IoT (Internet of Things) มาช่วยวัดผลและจัดการพลังงาน
  • ลงมือลดคาร์บอน (Decarbonize): ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในกระบวนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจริงๆ

เทคโนโลยีที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง?

  • โซลูชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์: ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งเรื่องการจ่ายไฟและการระบายความร้อน ซึ่งสำคัญมากในยุค AI บูม
  • ระบบสำหรับอาคารและโรงงาน: ทำให้อาคารเป็น “อาคารอัจฉริยะ” (Smart Building) หรือโรงงานใช้ระบบอัตโนมัติที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น (ลดได้ถึง 40%)
  • EcoStruxure: เป็นเหมือน “สมองกล” หรือแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ช่วยเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และแสดงผล ทำให้เห็นว่าพลังงานถูกใช้ไปที่ไหน และจะปรับปรุงได้อย่างไร
  • ระบบจัดการพลังงานในบ้าน (HEMS): เทคโนโลยีสำหรับบ้านทั่วไป ช่วยบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้า การเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ ทำให้ประหยัดค่าไฟได้

ความท้าทายที่ยังเจอ

แม้ว่าบริษัทส่วนใหญ่ทั่วโลก (กว่า 95% จากผลสำรวจในเอเชีย) จะตั้งเป้าหมายเรื่องความยั่งยืน แต่การลงมือทำจริงจังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นยังเป็นเรื่องท้าทาย (มีเพียงราวครึ่งหนึ่งที่ทำได้ครอบคลุม) ยังมี “ช่องว่าง” ระหว่างความตั้งใจกับการปฏิบัติจริง

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ต้องการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกก้าวข้ามความท้าทายนี้ และกลายเป็น “Impact Makers” หรือองค์กรที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้จริง โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เช่น การลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในที่สุด

โลกต้องการพลังงานมากขึ้นเพราะเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI แต่เราก็ต้องดูแลโลกด้วย ชไนเดอร์ฯ กำลังพยายามใช้ความเชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าและเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างโซลูชั่นเพื่อช่วยให้ธุรกิจทั่วโลกใช้พลังงานอย่างฉลาดและยั่งยืนมากขึ้นนั่นเอง

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *