สรุป WWDC 2024 รอบนี้จัดหนัก เล่ายาวเรื่อง AI แบบ Apple

WWDC 2024 ถือว่าเป็นอีกงานที่จะชี้ว่ามีอะไรในรอบนี้เรามาดูกันว่ารอบนี้สำหรับครั้งนี้เขาจะเริ่มต้นกับอะไรเรามาดูสรุปกันเลย

Apple TV+

• อาจจะไม่ได้เผยฟีเจอร์ใหม่มากนักแต่ว่ามี Original Content เยอะมากขึ้นผ่าน Apple TV+

VisionOS

• เวอร์ชั่นใหม่เรียกว่า visionOS 2
• มีการปรับเรื่อง Photo ดูภาพได้แบบมีมิติความลึกได้และแชร์ให้เพื่อนๆ คุณเห็นได้ผ่าน Share Play
• ต่อเชื่อมกับ Mac ให้สามารถแสดงผลหน้าจอได้กว้างมากขึ้น
• โหมดดูหนังก็สามารถทำให้เกิดความกว้างมากขึ้น
• Control Center ทำให้คุณสั่งงานได้มากขึ้นและง่ายขึ้น
• และยังมีการเปิดตัว API ใหม่ๆ จะทำให้สามารถแสดงผลได้ดีมากขึ้น
• และแสดงผลภาพและวิดีโอในแบบ Spatial Video โดย iPhone 15 Pro / iPhone 15 Pro Max หรือจะเป็นกล้องที่รองรับได้
• ตัดต่อวิดีโอแบบ Spatial Video ผ่าน Final Cut Pro ได้เช่นเดียวกัน
• รองรับการเชื่อมต่อกับเมาส์ได้
• Travel Mode สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟ
• Gesture Control รองรับด้วยนะ
• ประกาศการวางจำหน่าย Apple Vision Pro เพิ่มขึ้นอีกหลายประเทศ รวมถึงสิงคโปรก็รองรับเช่นเดียวกัน

iOS 18

• Home Screen ปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่เปลี่ยนเป็นแบบขาวดำ, สีเฉพาะ icon ให้ตรงกับ Wallpaper หรือตามใจคุณ
• Control Center สามารถเลือกนูได้หลากหลายตั้งแต่ เมนูหลัก, ปรับเฉพาะ homeKIT, ปรับเฉพาะเมนูที่ต้องการ และยังสามารถปรับแต่งได้ง่ายโดยไม่ต้องเข้าไปใน Setting และยังปรับขนาดได้ แถมเปิด API ให้นักพัฒนาให้เข้าไปได้
• Lock Screen ปรับตั้งค่าต่างๆ และยังสามารถกดสั่ง Action Button ให้ใช้ทำงานได้หลากหลายมากขึ้น
• Lock an App / Hide an app สามารถล็อคไม่ให้ใครเข้า Apps ในเครื่องคุณ จะเข้าได้ก็ต้องกดรหัสผ่าน หรือจะเป็นการซ่อน Apps โดยซ่อนแล้วจะอยู่ภายใน
• Apps สามารถทำงานร่วมกับ Find My เพื่อหาอุปกรณ์ได้
• Message รองรับการแสดงผลอารมณ์แบบ Emoji ได้มากขึ้น, สามารถตั้งค่าส่งที่หลัง, ขีดฆ่า, แสดงข้อความในรูปแบบต่างๆ ทั้งมีแบบสำเร็จรูปหรือสร้างเองก็ได้ และส่งข้อความผ่าน ดาวเทียม รองรับตั้งแต่ iPhone 14 ขึ้นไป
  • เลือกข้อความให้เป็นแบบ Category ได้เช่นเดียวกับอีเมล
• Maps จะมีฟีเจอร์เกี่ยวกับการเดินเทรล พร้อมระบบนำทาง
• Wallet เพิ่มฟีเจอร์ Tags To Cash ก็สามารถแตะเพื่อจะจ่ายเงินได้เลยหรือจะให้เงินเพื่อนก็ได้เช่นกัน รวมถึงการจองตั๋ว Concert
• Game Mode : เพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆได้
• ปรับปรุง Photos ใหม่
  • แยกภาพระหว่างภาพถ่ายและ Screenshot ไม่ให้แสดงรวมกัน
  • ปรับปรุงให้ดูง่ายขึ้น
  • ปักหมุด (Pin) สำหรับสถานที่หรือกิจกรรมที่คุณชอบดูให้อยู่ในหมวดหมู่ที่ถูกต้องได้เช่นเดียวกัน

Audio & Home

• AirPods จะเพิ่มฟีเจอร์การแจ้งเตือนพูดชื่อ ใช้ Gesture Control
• AirPods เพิ่มฟีเจอร์ Voice Isolation ทำให้เสียงที่คุณได้ยินจะเงียบลงมากขึ้น
• เพิ่ม Spatial Audio บน AirPods เมื่อเล่นเกม
• Apple TV เพิ่ม Insight แสดงผลข้อมูลเพิ่มเติมข้อมูลนักแสดง ผู้กำกับ และอื่นๆ
• ปรับสัดส่วน 21:9 ได้ สามารถเลือกการแสดงผลการแปลข้อความได้
• เพิ่ม Apple TV Screen Savers ใหม่

WatchOS 11

• ปรับปรุงหน้าของ Health ให้แสดงผลได้ละเอียดและยังมีการปรับได้ตามใจคุณนอกจากนี้ถ้าวันไหนไม่มีการเคลื่อนไหวก็สามารถแสดงผลเป็นวันพักได้
• Health มีการแสดงผลใหม่ที่ครอบคลุมทั้งการนอน, การใช้ชีวิต, การกินแอกอฮอล์ และดูการออกกำลังกายของคุณมากเกินไปหรือไม่
• รองรับฟีเจอร์ด่วน เมื่อคุณหมุน Digital Crown
• เลือกภาพที่คุณชอบมาเป็น Face Watch ได้และยังเปลี่ยนได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

iPadOS 18

• หน้าจอปรับแต่งได้เหมือนกับ iOS 18
• ปรับปรุง Tab Bar Mode สามารถเพิ่มได้ด้านบนและยังมีการปรับแสงผล Apps ให้มีขนาดที่มากขึ้น
• Share Play จะสามารถปรับหน้า Home Screen เพิ่มคุณได้
• เพิ่มเครื่องคิดเลขแล้ว และมี Math Note สามารถเขียนสูตรและคำนวณอัตโนมัติ รวมถึงการคำนวณถึงองศาได้
• Smart Script ทำให้ Note ปรับได้แบบน่าสนใจตั้งแต่ การเขียนเปลี่ยนรูปแบบได้, ลบข้อความ, วางข้อความ ให้เหมือนกับการเขียนก่อนหน้านี้ได้

macOS 15(Sequoia)

• Continuity ให้ประสบการณ์ใช้งานได้ทุก Ecosystem ให้เหมือนกัน และยังต่อเชื่อมกับ iPhone โยนขึ้นหน้าจอ หรือ iPhone Mirroring แถมยังสามารถควบคุม iPhone ได้เช่นเดียวกัน
• Face Time สามารถเปลี่ยนพื้นหลังได้
• Keychain ของ Mac จะมีการรวมใน Apps Passwords และรวมไปใช้กับ iPad, iPhone, Apple Vision Pro
• Safari
  • เพิ่ม Hilights เข้าไปว่ามีข้อมูลที่คุณต้องการรู้แสดงผลในกรอบเล็กๆ
  • Reader ปรับให้การอ่านทำได้ง่ายนมากขึ้น
  • Viewer ปรับให้แดงผลแค่วิดีโอ และทำแสดงผลแบบ Picture in Picture ได้
  • Game Mode เพิ่มความลื่นไหลมากขึ้น และรองรับ Metal 3 ให้กับ iPad และ iPhone

ทั้งหมดจะปล่อยเวอร์ชั่น Public Beta กรกฏาคม, เวอร์ชั่นนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้, เวอร์ชั่นเต็มคาดว่าเจอกันปลายปีนี้

Apple Intelligent

AI ของ Apple ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ในเรื่องของการช่วยเหลือแบบครบครัน ขอสรุปแบบคร่าวๆ

• สามารถที่จะตอบข้อความต่างๆ, การสร้างภาพเช่นทำการ์ดฉลองวันเกิด
• On-Demand-Device Apple ยังคิดถึงเรื่อองความปลอดภัย ดังนั้นในเรื่องการประมวลผล AI ที่แสดงผลข้อมูลให้คุณจะเป็นแบบเฉพาะคุณและเป็นแบบ Private Cloud Computing
• Siri มีการตอบได้ธรรมชาติมากขึ้น, แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ เช่นการพิมพ์ข้อความ, ช่วยพิมพ์อีเมล์, ช่วยหน่วงเวลาของภาพได้ และกรอกแบบฟอร์ม ถ้ามีข้อความที่ต้องการได้
• Writing Tools ฟีเจอร์ช่วยปรับรูปแบบการเขียนข้อความ, อีเมลได้หลากหลาย ว่าจะเลือกแบบไหนที่ต้องการ มีการตรวจคำสะกดต่างๆ และมีการสรุปให้โดยรองรับกับโปรแกรมที่หลากหลาย
  • Smart Reply จะมีการถามเพื่อให้คุณได้ตอบแทนการพิมพ์ เน้นความรวดเร็วในการตอบ
  • Summarize จะอยู่ด้านบนในอีเมลเพื่อสรุปว่าข้อความที่ส่งมาต้องการบอกอะไรคุณ
• Genmoji สามารถสร้าง Emoji ด้วยข้อความที่คุณต้องการเช่นอยากให้ไดโนเสาร์เล่นสเก็ตบอร์ตก้สามารถทำได้
• Image Playground สร้างภาพเพื่อส่งไปยังเพื่อนของคุณได้มีหลากหลายรูปแบบและหลายสไตล์
• ใน Photos ยังสามารถลบวัตถุเพิ่มสติ๊กเกอร์ ค้นหาวิดีโอได้มากขึ้น และสร้างอัลบั้มตามสั่งได้
• ทำงานร่วมกับ ChatGPT ตามข่าวลือ
• และใช้ได้เฉพาะ ภาษาอังกฤษ ในระยะแรกนี้

ถ้าสรุปไปของ Apple Intelligent บอกได้ว่ามีของครบและยังสามารถใช้งานได้จริงและรวมกับ Ecosystem เป็นหนึ่ง แม้ว่าตอนแรกก็เป็นธรรมเนียมว่าภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ อังกฤษ จะใช้ไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องปกติ คงต้องรอดูว่าใช้จริงแล้วมันจะเป็นอย่างไร

หมายเหตุ จุดไหนขาดตกก็ขออภัยนะครับ