สรุปงาน Apple Event 2024 It’s GlowTime มาจริง iPhone 16

จบไปแล้วสำหรับงาน Apple Event รอบล่าสุดซึ่งครั้งนี้มีชื่อว่าว่า It’s GlowTime อะไรจะโตขึ้นตามเวลา อะไรที่จะมาใหม่ อะไรที่จะไม่มาวันนี้เรามีคำตอบพร้อมแล้วมาดูสรูปกันเลย

Apple Watch Series 10

Apple Watch Series 10 เปลี่ยนดีไซน์ใหม่เรียกว่าใหม่หมด พร้อมกับหน้าจอใหญ่ขึ้น และขอบหน้าจอที่บางลง เท่ากับหน้าจอจะใหญ่กว่าเดิม แต่เท่ากับ Apple Watch Ultra และจอจะโค้งลงไปถึงขอบหน้าจอ หน้าจอใช้เป็นแบบ AMOLED ที่มุมกว้าง (Wide Angle) หน้าจอสว่างกว่าเดิม 40% แถมยังบางกว่าเดิม 10% ลำโพงบางลงกว่าเดิม สามารถฟังเพลงและ Podcasts

พบอดี้เป็นแบบอลูมิเนียมและมีสี Jet Black มันวาว(ถ้าคิดไม่ออกคิดถึง iPhone 7 ไว้) และมีสี Rose Gold และสีเงินให้เลือก ที่เป็นขอบด้าน และมีรุ่นบอดี้ไทเทเนียมสีธรรมชาติ, ทองและดำ และมีหน้าจอทำจากกระจก Saphire เช่นเดียวกัน

นอกจากเรื่องของหน้าปัดใหม่ที่มีให้เลือกเยอะแล้วยังสามารถชาร์จไฟเร็วขึ้นแค่ 30 นาทีก็เต็มแล้ว มาพร้อมกับชิป S10 ใหม่ล่าสุดที่ทำให้สามารถใช้งานรวดเร็วรองรับฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย แถม Machine Learning สามารถปรับนาฬิกาให้อยู่ตำแหน่งให้เหมาะสมได้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น

  • การดูแลสุขภาพ
    • สามารถวัดในเรื่องของการว่ายน้ำได้ โดนบันทึกผ่าน Log Book บอกความลึก
    • บอกเรื่องเกี่ยวกับรายงานว่าคุณพายเรือออกนอกเส้นทางหรือไม่
  • การหลับนอน
    • Sleep Apnea ตรวจจับภาวการณ์หยุดหายในขณะนอนหลับได้ โดยใช้ Machine Learning ในการช่วยจับให้ดีมากขึ้น รองรับการใช้งานกว่า 150+ และใช้ได้กับ Apple Watch Series 9 และรุ่นที่แล้วได้หมด

ราคาอยู่ที่ 14,900 บาท

Apple Watch Ultra 2

มาถึง Apple Watch Ultra รุ่นใหม่ที่สามารถบอกข้อมูลได้มากอยู่แล้ว ในรอบนี้มีการเปลี่ยนคือเพิ่มสีใหม่ ดำ ที่ทำให้ดูเข้มกว่าเดิมกับ การเคลือบด้วย PVD และมีการนำวัสดุไทเทียนมแบบรีไซเคิลใหม่และมีการเปิดตัวสายใหม่ที่ทำจากไทเทเนียม เหมาะกับสายดำน้ำที่มีความต่อเนื่องและตัวล็อกมีความแข็งแรงมากขึ้นและสีเดิมก็ยังขายอยู่

และ Apple Watch SE นั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนะครับ โดยคาดว่าวัสดุของการผลิตของ Apple ภายในปี 2030 จะทำให้มี

AirPods 4

สำหรับหูฟังอย่าง AirPods 4 ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาแทนรุ่น AirPods 3 ที่ทำตลาดมานานออกแบบให้สามารถและใส่ได้ง่ายมาพร้อมกับชิป H2 และมีการออกแบบให้เสียงออกมาได้ดีมากขึ้นกับ Personalized Spatial Audio และยังสามารถแตะเพื่อวางสายได้

นอกจากนี้ไมโครโฟนออกแบบให้ให้สามารถตัดเสียงระหว่างการโทรทำได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ให้ฟีเจอร์ Active Noise Canceling (Option) โดยแค่กดเหมือนกับ AirPods Pro 2 และยังมีโหมดปล่อยให้เสียงเข้ามาได้พร้อมกับ Adaptive Audio ปรับเสียงให้เหมาะสมได้ พร้อมกับ พูดแล้วมีเสียงให้คุณได้ยินรอบข้างได้ และสามารถชาร์จไฟไรสาย Mag Safe

ราคา 4,990 – 6,790 บาท

AirPods Max

AirPods Max ใหม่มีการปรับโฉมในเรื่องของสีสันใหม่อีก 6 สีพร้อมกับ USB-C ในราคาขายเท่าเดิม! คือ 19,900 บาท

AirPods Pro 2

ไม่ได้มีการปรับปรุงใหม่แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจก็คือ จะมี Software ใหม่เช่น

  • Hear Protection โดยมีช่วยตรวจสอบสภาพแวดล้อมว่าเสียงของคุณดังเกินไปหรือไม่และมีการปรับเสียงโดยอัตโนมัติ
  • Hear Testing จะเป็น รูปบบการฟังของคุณนั้นมีปัญหาหรือไม่
  • Hear Aid จะมีการช่วยแก้ปัญหาของคนที่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน โดยตัวเครื่องสามารถทำตัวเป็นเครื่องช่วยฟังได้

ทั้งหมดคาดว่าจะมีการอัปเดตใน iOS 18 และสามารถใช้งานได้กว่า 100+ โดยจะเริ่มในเยอรมัน, ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา

iPhone 16

สำหรับ iPhone 16 นั้นยังเป็น iPhone สีสดใสเหมือนเดิม และมาพร้อมกับมาพร้อมกับสีโปรโมทคือสีน้ำเงิน พร้อมกับกระจก Ceramic Shield ใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม

iPhone 16 มาพร้อมกับปุ่ม Action Button และนอกจากนี้ยังมีการออกแบบด้วยอลูมิเนียมเหมือนเดิม และยังมีการใช้ชิป Apple Silicon ในรุ่นที่มีชื่อว่า A18 ที่อัปเกรดจากเดิม โดยมี Neural Engine 16 Coreและมี Bandwidth มากกว่าเดิม 17% เพื่อรองรับกับ Apple Intelligence และเร็วกว่าเดิม 30% กินไฟพลังงานน้อยลง 15% เมื่อเทียบกับ iPhone 15

นอกจากนี้ติดตั้งชิป GPU 5 Core ที่ตคอบสนองกับภาพและกราฟิกได้ดี นอกจากนี้ยังเร็วกว่า และกินไฟน้อยลงอีก

Apple Intelligence รองรับกับ iPhone 16 ทุกรุ่น โดยรวมของ Apple Intelligence นั้นจะทำงานอยู่ในระบบ Cloud ส่วนตัวของคุณ (Private Cloud Compute) จุดเด่นคือปลอดภัยแน่นอน และไม่มีใครเข้ามาได้ และฟีเจอร์อื่นๆ นี้จะเริ่มกับ USA ก่อน ส่วนประเทศอื่นทยอย ส่วนประเทศไทย รอกันไปก่อน

ส่วนกล้องรอบนี้มีปุ่ม ถ่ายภาพ หรือ Quick Capture ด้านข้าง โดยสามารถแตะเพื่อถ่ายภาพ หรือแตะเบาๆ เพื่อใช้ฟีเจอร์ Apple Intelligence ได้ในการค้นหาอะไรที่ต้องการ โดยแตะ หรือกดลงไปลึกก็ได้ หรือจะแตะเพื่อใช้กับ ChatGPT หรือ Google ก็ทำได้

การควบคุมกล้อง (Camera Control) ปุ่มนี้ทำงานเพื่อเชื่อมต่อกับ Apps กล้องได้ โดยและถ่ายภาพได้เลยการทำงาน จะเป็นการแตะแบบ Haptics Feedback และยังสามารถแตะค้างแล้วเลื่อนไปมาเพื่อจะซูมเข้าหรือออกได้ และยังเพื่อจะเปลี่ยนค่าต่างๆ ได้ แถมยังแตะเพื่อส่งวิดีโอให้เพื่อๆ คุณได้

สเปกกล้องยังเป็นแบบเดิม โดยกล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F/1.6 รองรับการซูมแบบ 2x แบบไม่แตก เลนส์กล้อง 12 ล้านพิกเซล Ultrawide รองรับ Auto Focus สามารถถ่ายระยะใกล้หรือ Macro Photography และยังรองรับ Spatial Photography เอาไปแสดงผลกับ Apple Vision Pro และในเรื่องการตัดเสียงรบกวนโดยเฉพาะเสียงลมได้ดี แถมหยุดระหว่างการอัดวิดีโอได้

นอกจากนี้ในการเล่นเกมก็มีการออกแบบให้สามารถระบายความร้อนได้ดีและยังมีการรองรับ Ray Tracing ทำให้ภาพที่แสดงผลสมตจริงมากขึ้น และยังเล่นเกมระดับ AAA ได้

ส่วนแบตเตอรี่นั้นมีการอัปเกรดแบตเตอรี่ใหม่และพอเป็นชิป A18 ก็จะทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่นการส่ง Live Video ในการแจ้งเตือนฉุกเฉิน, ส่งข้อความผ่านดาวเทียมได้ (เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดา) แถมรองรับ Wi-Fi 7

สำหรับราคานั้นมีดังนี้ เริ่มต้น 29,900 บาท หรือถูกกว่าเดิม และ iPhone 16 Plus ที่ 34,900 บาท

iPhone 16 Pro / 16 Pro Max

สำหรับ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max นั้นยังคงมีดีไซน์คล้ายกับ iPhone 15 Pro แต่สีสันใหม่รอบนี้ออกเป็นสีทอง และหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.3 – 6.9 นิ้ว รองรับ ProMotion, Always On Display และ บอดบี้เกรด 5 เหมือนเดิม ปุ่ม Camera Control เพิ่มขึ้นมา

โดยสีมีให้เลือกทั้ง สีเงิน, ธรรมชาติ, ดำ และสีบรอนช์ (ทองแดง)

แบตเตอรี่ของ iPhone 16 Pro / iPhone 16 Pro Max มีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม และรองรับกับการสั่งงาน Apple Intelligence และเบื้องหลังของชิป iPhone 16 Pro คือชิป A18 Pro

ความแตกต่างของรุ่นนี้มี Neural Engine ทั้งหมด 16 Core และมี GPU ทั้งหมด 6 Core เพิ่มความแรงกว่า A17 Pro 16% ส่วน CPU เร็วกว่าเดิม 15% แต่ประหยัดไฟกว่าเดิม 20%  พร้อมกับมีการออกแบบรองรับกับ Media เพิ่มขึ้น

ส่วนกล้องนั้น ตัวหลัก 48 ล้านพิกเซล เหมือนกัน, รองรับ ProRAW กล้องมุมกว้าง 48 ล้านพิกเซลรุ่นใหม่และเข้าใกล้ได้ ส่วนกล้อง Telephoto 12 MP ให้การซูมได้ 5x Optical ทั้งคู่และมี Camera Control ให้ทั้งคู่

วิดีโอยังรองรับ 4K แบบ High Framerate ยังรองรับการถ่าย Cinematic 4K และ Action ได้แถมยังถ่าย Slowmotion แบบ Cinematic 120 FPS นอกจากนี้ติดตั้งไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัวที่ทำให้ช่วยให้เสียงมารอบทิศหรือ Spatial Audio Capture พร้อมรองรับ Audio Mix ปรับแต่งได้ทั้ง In-Frame, Studio และ Cinematic

ส่วนเคสใหม่มีการเจาะรูให้รองรับกับ Camera Control และยังมีการออกแบบให้ใช้กับ MagSafe ที่รองรับ Qi2 ใหม่ส่วนราคาของ iPhone 16 Pro เริ่มต้น 128GB = 39,900 บาท และ iPhone 16 Pro Max เริ่มต้น 256GB ที่ 48,900 บาท

โดยทั้งหมดจะขายวันที่ 20 กันยายน เช่นเคย

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *